ประเพณี “ตักบาตรบนหลังช้าง”
จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นหนึ่งในประเพณีทางพุทธศาสนาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นภาพสะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างคน ช้าง และพระพุทธศาสนา ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
เกิดขึ้นครั้งแรกที่ไหนและเมื่อไหร่?
ประเพณีนี้เกิดขึ้นครั้งแรก ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ใจกลางเมืองสุรินทร์ เมื่อ วันอาสาฬหบูชา ประจำปี พ.ศ. 2550
ความเป็นมาและแนวคิดริเริ่ม แนวคิดนี้ริเริ่มโดยจังหวัดสุรินทร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับ “เมืองช้าง”
แนวคิดหลักคือการผสมผสาน 2 สิ่งที่เป็นที่สุดของจังหวัดสุรินทร์เข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่:
- ช้าง: สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์ มีประวัติศาสตร์ร่วมกับชาวกูยเลี้ยงช้างมาอย่างยาวนาน
- พระพุทธศาสนา: วิถีชีวิตและศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย
การนำช้างมาร่วมในพิธีตักบาตรในวันสำคัญทางศาสนา (วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา) โดยให้พระสงฆ์นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง จึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ สง่างาม และสื่อถึงความศรัทธาอันบริสุทธิ์ของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา โดยมีช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย ทำให้ประเพณีนี้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนจังหวัดสุรินทร์ในทุกๆ ปี
กิจกรรมน่าสนใจ
9 ก.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป
ชมบวนแห่เทียน และขบวนช้าง
10 ก.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป
ร่วมทำบุญตักบาตรอาหารแห้งแด่พระสงฆ์บนหลังช้าง
ณ อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง จ.สุรินทร์